ทาย 5 นิสัยจาก นาฬิกา เรือนโปรดที่คุณใส่
การใส่ นาฬิกา เป็นเรื่องหนึ่งที่ต้องยอมรับว่าได้รับความ […]
กลไกนาฬิกาคืออะไร ระบบกลไกของนาฬิกาคือระบบขับเคลื่อนที่ทำหน้าที่บอกเวลา ซึ่งจะประกอบด้วยชิ้นส่วนต่าง ๆ มากมายที่ทำงานประสานกันอย่างซับซ้อน และแต่ละชิ้นส่วนภายในระบบนาฬิกาล้วนมีความสำคัญและส่งผลต่อความเที่ยงตรงและความทนทานของนาฬิกาด้วยกันทั้งสิ้น
โดยกลไกการทำงานของนาฬิกานั้นจะทำงานโดยอาศัยพลังงานจากแหล่งต่าง ๆ เช่น ลานสปริง แบตเตอรี่ หรือพลังงานแสงอาทิตย์ เป็นต้น ซึ่งพลังงานเหล่านั้นจะถูกส่งต่อไปยังชิ้นส่วนต่าง ๆ ของกลไกนาฬิกาเพื่อหมุนเข็มนาฬิกาและควบคุมความเร็วในการหมุนของเข็มนาฬิกาให้เข็มนาฬิกาสามารถบอกเวลาได้อย่างถูกต้อง เที่ยงตรง และแม่นยำ
เรียกได้ว่าระบบกลไกนาฬิกาถือเป็นหัวใจสำคัญของนาฬิกาเลยก็ว่าได้ เพราะว่ากลไกของนาฬิกา เปรียบเสมือนจิตวิญญาณที่หล่อหลอมให้นาฬิกาขับเคลื่อนและมีชีวิต ซึ่งกลไกนาฬิกาตามร้านนาฬิกามือหนึ่งและร้านนาฬิกามือสองในปัจจุบันนั้นก็มีหลากหลายรูปแบบให้เลือกใช้งาน โดยแต่ละรูปแบบก็มีจุดเด่นและฟังก์ชันการใช้งานที่แตกต่างกัน
เมื่อได้รู้จักกับระบบกลไกของนาฬิกากันไปแล้ว สำหรับใครที่อยากรู้ว่า ระบบกลไกนาฬิกามีแบบไหนบ้าง? และแต่ละแบบมีฟังก์ชันการใช้งานที่แตกต่างกันอย่างไรนั้น? วันนี้ทาง Timenaliga (ร้านรับซื้อนาฬิกาหรูมือสองของแท้) ขอพาไปรู้จักกับระบบกลไกนาฬิกาแบบต่าง ๆ พร้อม ๆ กันในบทความนี้
โดยทั่วไปแล้วระบบกลไกนาฬิกาจะแบ่งได้เป็น 2 รูปแบบหลัก ๆ นั่นก็คือ ระบบกลไกนาฬิกา Mechanical และระบบกลไกนาฬิกา Quartz ซึ่งก็จะมีรายละเอียด ดังนี้
ระบบกลไกนาฬิกา Mechanical หรือระบบนาฬิกาแบบจักรกล เป็นระบบกลไกนาฬิกาที่เก่าแก่ที่สุดและมีความซับซ้อนมากกว่าระบบกลไกนาฬิกาแบบอื่น ๆ กลไกการทำงานของนาฬิกาจะขับเคลื่อนด้วยพลังงานจากลานสปริง โดยลานสปริงจะค่อย ๆ คลายตัวออกและส่งพลังงานไปยังชิ้นส่วนต่าง ๆ ของกลไกเพื่อหมุนเข็มนาฬิกา
ระบบกลไกนาฬิกา Mechanical ประกอบด้วยชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่อยู่ภายในระบบนาฬิกามากมายที่ทำงานประสานกัน เช่น
✔ ไม่ต้องใช้แบตเตอรี่
✔ การเดินของเข็มวินาทีจะเคลื่อนที่อย่างต่อเนื่องและราบรื่น
✔ มีความเที่ยงตรงสูง เนื่องจากจักรกรอกจะสั่นด้วยความถี่คงที่
✔ มีความทนทาน เนื่องจากชิ้นส่วนต่าง ๆ ภายในระบบนาฬิกาแบบจักรกลมักทำจากวัสดุที่มีคุณภาพสูง
ถึงแม้กลไกนาฬิกาแบบจักรกล (Mechanical) จะมีความเที่ยงตรงสูง แต่ก็ต้องไขลานทุกวันหรือทุกสัปดาห์ เนื่องจากลานสปริงจะค่อย ๆ คลายตัวออกและหมดพลังงาน หากไม่ไขลานนาฬิกาก็จะหยุดเดิน โดยรุ่นนาฬิการะบบกลไกนาฬิกา Mechanical ที่โดดเด่น ก็เช่น Patek Philippe Calatrava Ref. 5119J, Rolex Submariner Ref. 114060 และ Omega Speedmaster Moonwatch Professional Ref.311.30.42.30.01.005 เป็นต้น
ระบบกลไกนาฬิกา Quartz เป็นระบบกลไกของนาฬิกาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบัน ซึ่งกลไกการทำงานของนาฬิกาจะขับเคลื่อนด้วยพลังงานจากแบตเตอรี่ โดยแบตเตอรี่จะส่งพลังงานไปยังคริสตัลควอตซ์และจะสั่นด้วยความถี่คงที่ จากนั้นการสั่นของคริสตัลควอตซ์จะส่งสัญญาณไปยังมอเตอร์เพื่อหมุนเข็มนาฬิกา สำหรับระบบกลไกนาฬิกาแบบควอตซ์ (Quartz) ก็จะประกอบไปด้วยชิ้นส่วนหลัก ๆ ดังนี้
✔ ไม่จำเป็นต้องไขลาน นาฬิกาจะเดินได้หากยังมีแบตเตอรี่อยู่
✔ มีความเที่ยงตรงสูง เนื่องจากคริสตัลควอตซ์จะสั่นด้วยความถี่คงที่
✔ มีราคาไม่แพง เมื่อเทียบกับระบบกลไกนาฬิกาแบบจักรกล (Mechanical)
✔ มีอะไหล่ในระบบนาฬิกาที่ไม่ซับซ้อน สามารถซ่อมได้ง่าย
อย่างไรก็ตามระบบกลไกนาฬิกาแบบควอตซ์ (Quartz) ก็มีข้อเสียคือเสียงของเข็มนาฬิกาที่เดินนั้นไม่ได้ราบเรียบสักเท่าไหร่และอาจมีความทนทานน้อยกว่าระบบกลไกนาฬิกาแบบจักรกล (Mechanical) โดยรุ่นนาฬิการะบบกลไกนาฬิกา Quartz ที่โดดเด่น ก็เช่น Patek Philippe Aquanaut Luce Ref. 5067A-023, Omega Constellation Quartz Ref. 123.10.35.60.02.001 และ Rolex Oysterquartz Datejust Ref. 17013 เป็นต้น
นอกจากระบบหลัก ๆ ทั้ง 2 ระบบ อย่าง ระบบกลไกนาฬิกาแบบจักรกล (Mechanical) และระบบกลไกนาฬิกาแบบควอตซ์ (Quartz) แล้ว แน่นอนว่าตามร้านขายนาฬิกามือหนึ่งและร้านนาฬิกาของแท้มือสองก็ยังมีระบบกลไกนาฬิกาแบบอื่น ๆ อีกที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไป ไม่ว่าจะเป็น
ระบบกลไกนาฬิกา Analog เป็นระบบกลไกนาฬิกาที่แสดงเวลาด้วยเข็มนาฬิกา 3 เข็ม ได้แก่ เข็มชั่วโมง เข็มนาที และเข็มวินาที ซึ่งกลไกการทำงานของนาฬิกาอาจเป็นได้ทั้งระบบกลไกนาฬิกาแบบควอตซ์ (Quartz) หรือระบบกลไกนาฬิกาแบบจักรกล (Mechanical) โดยในนาฬิการะบบกลไกนาฬิกา Analog แบบควอตซ์ เข็มนาฬิกาจะเคลื่อนไหวอย่างราบรื่นและแผ่วเบา ในขณะที่นาฬิการะบบกลไกนาฬิกา Analog เข็มจะมีการเดินทีละน้อยจะขับเคลื่อนด้วยพลังงานจากลานสปริง ลานสปริงจะค่อย ๆ คลายตัวออกและส่งพลังงานไปยังชิ้นส่วนต่าง ๆ ของกลไกเพื่อหมุนเข็มนาฬิกา
ระบบกลไกนาฬิกาแบบไฮบริด (Hybrid) เป็นระบบกลไกนาฬิกาที่เป็นการผสมผสานระหว่างกลไกของนาฬิกาแบบจักรกล (Mechanical) และระบบกลไกของนาฬิกาแบบควอตซ์ (Quartz) สำหรับกลไกการทำงานของนาฬิกาจะขับเคลื่อนด้วยพลังงานจากลานสปริงและแบตเตอรี่ ซึ่ง Timethai by Tag ต้องขอบอกเลยว่านาฬิการะบบไฮบริด (Hybrid) นี้ ตอบโจทย์อย่างมากสำหรับผู้ที่ชื่นชอบนาฬิกาแบบจักรกล (Mechanical) แต่ไม่อยากไขลานทุกวัน เพราะเป็นนาฬิกาที่ไม่จำเป็นต้องไขลานทุกวัน
ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น เพราะนอกจากระบบกลไกของนาฬิกาที่ทาง Timethai by Tag ได้หยิบยกมาในข้างต้นแล้ว ยังมีระบบกลไกนาฬิกาแบบอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น
✔ ระบบกลไกแบบอัตโนมัติ (Automatic) ขับเคลื่อนด้วยระบบออโต้ ไม่มีถ่าน
✔ ระบบกลไกแบบพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar) ขับเคลื่อนด้วยพลังงานแสงอาทิตย์
✔ ระบบกลไกแบบแม่เหล็ก (Magnetic) ขับเคลื่อนด้วยพลังงานแม่เหล็ก
✔ ระบบกลไกแบบแรงดันอากาศ (Barometric) ขับเคลื่อนด้วยแรงดันอากาศ
✔ ระบบกลไกแบบอุณหภูมิ (Thermodynamic) ขับเคลื่อนด้วยอุณหภูมิ
สำหรับระบบกลไกนาฬิกาในแบบอื่น ๆ นั้น ก็จะมีฟังก์ชันการใช้งานที่แตกต่างกันไปตามประเภทของกลไกนาฬิกา และหากต้องการเลือกระบบกลไกของนาฬิกาที่เหมาะสม โดยเป็นนาฬิกาที่มีความเที่ยงตรงสูง เสียงการเดินของเข็มนาฬิการาบรื่น ไพเราะ และทนทาน ทาง Timethai by Tag ขอแนะนำให้เลือกระบบกลไกนาฬิกาแบบจักรกล (Mechanical) หรือระบบกลไกนาฬิกาแบบไฮบริด (Hybrid) แต่หากต้องการนาฬิกาที่มีระบบนาฬิกาไม่ต้องไขลานทุกวัน ราคาไม่แพง ก็ต้องขอบอกเลยว่านาฬิการะบบกลไกนาฬิกาแบบควอตซ์ (Quartz) ตอบโจทย์กว่าเป็นอย่างมาก
ทั้งนี้ การเลือกนาฬิกาสักเรือนที่มีระบบกลไกนาฬิการะบบใดระบบหนึ่งนั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับความชอบและการใช้งาน ดังนั้นก่อนที่จะเลือกนาฬิกาสักเรือนควรพิจารณาเกี่ยวกับระบบนาฬิกา หรือกลไกการทำงานของนาฬิกาให้รอบคอบเสียก่อน เพื่อให้ได้นาฬิกาที่มีระบบกลไกนาฬิกาที่ตรงใจมากที่สุด