หากพูดถึงนาฬิกาดำน้ำระดับ Luxury แล้วนั้น หนึ่งในนาฬิกาที่เป็นภาพจำ ของใครหลาย ๆ คนก็ต้องเป็น Blancpain คอลเลกชัน Fifty Fathoms อย่างแน่นอน โดยในปีนี้แบรนด์ Blancpain ได้กลับมาสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับแฟนคลับด้วยการเปิดตัวนาฬิกา Fifty Fathoms ขนาดใหม่ 42 มิลลิเมตร โดยในวันนี้เราจะพาทุกคนมาเจาะลึกนาฬิการุ่นใหม่แบบใกล้ ๆ พร้อมเปรียบเทียบ Look and Feel กับนาฬิกา Rolex Submariner ให้ดูว่าแตกต่างกันอย่างไรบ้าง

หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่า Fifty Fathoms รุ่นปกติในยุคปัจจุบันจะมีขนาดอยู่ที่ 45 มิลลิเมตร ทำให้แฟนคลับที่มีขนาดข้อมือไม่ใหญ่ต่างเรียกร้องและรอคอยว่าเมื่อไรทางแบรนด์จะปรับขนาดนาฬิกาให้เล็กลง และในที่สุด Blancpain ก็ได้ออกขนาด 42 มิลลิเมตรมาครั้งแรกในปีที่แล้วกับ Fifty Fathoms 70th Anniversary Act 1 ซึ่งเป็นลิมิติดอิดิชัน และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ทำให้ถูกจับจองและขายหมดไปในเวลาอันรวดเร็ว

ล่าสุดในปี 2024 นี้ทาง Blancpain ได้ตอบรับเสียงเรียกร้องจากแฟนคลับด้วยการเปิดตัวนาฬิการุ่นใหม่ Fifty Fathoms Automatique ขนาด 42 มิลลิเมตรเช่นเดียวกับที่ออกมาปีก่อน แต่มีความพิเศษตรงที่ครั้งนี้ไม่ได้จำกัดจำนวนแล้ว ซึ่งทำให้แฟนคลับสามารถจับจองเป็นเจ้าของได้อย่างทั่วถึงมากขึ้น

โดยนาฬิการุ่นใหม่นี้มีให้เลือก 2 วัสดุ ได้แก่ เรดโกลด์ และ ไทเทเนียม มาพร้อมหน้าปัด 2 สี คือ หน้าปัดสีดำ และสีน้ำเงิน ซึ่งสามารถจับคู่กับสายนาฬิกาได้อย่างหลากหลาย ตั้งแต่สายไทเทเนียม, สายผ้าใบ, สาย NATO และสายยางแบบ Tropic

โดยในวันนี้เรามีนาฬิกา Fifty Fathoms มาให้ชมแบบเจาะลึกด้วยกัน 2 เรือน พิเศษด้วยตัวเรือนที่ทำจากไทเทเนียมทั้งคู่ มาพร้อมทั้งหน้าปัดสีดำ และ หน้าปัดสีน้ำเงิน ซึ่งจับคู่มากับสายที่ต่างกัน นั่นก็คือ สายยาง Tropic และ สายไทเทเนียม ให้ทุกคนได้ตามดูไปด้วยกันอย่างใกล้ชิด

ประวัตินาฬิกา Fifty Fathoms

Fifty Fathoms เปิดตัวครั้งแรกในปี 1953 ในฐานะนาฬิกาสำหรับดำน้ำอย่างแท้จริงเรือนแรกของโลก ซึ่งเกิดจากวิสัยทัศน์ของ Jean-Jacques Fiechter ซีอีโอของ Blancpain ในขณะนั้น ผู้ซึ่งชื่นชอบในการดำน้ำเป็นอย่างมาก และเป็นนักดำน้ำลึก หรือที่เรียกว่า Scuba Diving มาตั้งแต่ยุคแรก ๆ โดยนาฬิกานี้ถูกสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อตอบโจทย์ความต้องการในการสำรวจโลกใต้ทะเลลึก

การดีไซน์ของ Fifty Fathoms

มาเจาะลึกดูการดีไซน์ของ Fifty Fathoms โดยการออกแบบที่เห็นบนเรือนใหม่นี้จะเป็นดีไซน์แบบโมเดิร์นของ Fifty Fathoms ในช่วงศตวรรษที่ 21 ที่อยู่ในคอลเลกชันหลักของ Blancpain มาตั้งแต่ปี 2007

สำหรับรุ่นนี้จะใช้หน้าปัดแบบ Sunburst ที่มีมิติทำให้เล่นกับแสงได้อย่างสวยงาม โดยสีดำจะให้ลุคที่ดูสุขุมลงตัว ส่วนสีน้ำเงินจะให้ลุคที่ดูสนุกและโดดเด่น โดยเฉพาะเมื่อแสงตกกระทบจะเห็นการไล่เฉดสีจากสีอ่อนไปสีเข้มได้อย่างสวยงาม ส่วนกระจกหน้าปัดจะใช้วัสดุ Sapphire ที่ได้รับการเคลือบสารตัดแสงสะท้อนทั้งบริเวณด้านในและด้านนอก ทำให้สามารถอ่านเวลาได้อย่างชัดเจน

มาพร้อมขอบหน้าปัดหมุนได้ทิศทางเดียวตามสไตล์ Diver Watch ที่ผลิตจากวัสดุ Sapphire ทำให้ขอบหน้าปัดมีความนูนทำองศาได้อย่างพอดีและมีมิติอย่างสวยงาม ซึ่งขอบหน้าปัดที่เงางามนี้คือดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ของ Fifty Fathoms ในยุคปัจจุบันนั่นเอง

สำหรับรูปแบบของหลักชั่วโมงจะเป็นตัวเลขอารบิก 3, 6, 9, และ 12 เช่นเดียวกับรุ่นดั้งเดิมของปี 1953 แต่ได้มีการพัฒนาให้มีความทันสมัยมากขึ้นด้วยการดีไซน์หลักชั่วโมงเป็นทรงสามเหลี่ยมที่ทั้งถูกเจียระไนให้ดูมีมิติ และขัดแต่งอย่างสวยงาม ออกมาเป็นขอบที่ดูลงตัว

มาพร้อมชุดเข็มชั่วโมงและนาทีรูปทรงโมเดิร์นแบบ Arrow ที่ถูกขัดเงาอย่างประณีต และเข็มวินาทีที่มีการแต่งแต้มสีแดงที่ปลายเข็มได้อย่างโดดเด่น ติดตั้งหน้าต่างวันที่อยู่ระหว่างตำแหน่ง 4 และ 5 นาฬิกา ซึ่งดูกลมกลืนกับหน้าปัดเป็นอย่างดี

อีกจุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ของ Fifty Fathoms ก็คือพรายน้ำที่ส่องสว่างเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะมีพรายน้ำบนเข็มนาฬิกาและหลักชั่วโมงแล้ว ยังมีพรายน้ำบนขอบหน้าปัดอีกด้วย ซึ่งตอกย้ำถึงปรัชญาความเชี่ยวชาญในการออกแบบ โดยคำนึงถึงการใช้งานจริงในการดำน้ำที่เน้นจับเวลาช่วง 15 นาที เพื่อให้สามารถอ่านค่าเวลาใต้น้ำได้อย่างชัดเจน

ด้านหลังตัวเรือนจะเป็นแบบโปร่งใสเผยให้เห็นการทำงานของกลไกอัตโนมัติ In House Caliber 1315 ที่มาพร้อมการสำรองพลังงานนานถึง 120 ชั่วโมง หรือ 5 วัน และยังสามารถต้านทานสนามแม่เหล็กได้ด้วยซิลิคอนแฮร์สปริงแบบพิเศษ

ผสานเข้ากับ Rotor Weight ที่ทำจากวัสดุเรดโกลด์ 18K พร้อมเคลือบด้วยแพลทินัมอัลลอย หรือ ที่เรียกว่า NAC ซึ่งเป็นดีไซน์ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากโรเตอร์ของนาฬิการุ่นประวัติศาสตร์จากปี 1953 ให้ลุคสปอร์ตตามสไตล์ของนาฬิกาดำน้ำได้เป็นอย่างดี

Look and Feel Blancpain Vs Submariner

คำถามยอดฮิตที่หลายคนถามเข้ามาเป็นประจำว่าหากจะเปรียบเทียบระหว่าง Fifty Fathoms กับ Submariner นั้นให้ความรู้สึกแตกต่างกันอย่างไร ?

สำหรับเราการออกแบบของทั้งคู่มีเอกลักษณ์และมีความไอคอนิกในแบบของตัวเอง จึงมีฐานแฟนคลับอย่างเหนียวแน่น แต่หากดูที่ภาพรวมของทั้งคู่จะให้ลุคที่แตกต่างกัน ซึ่งหลัก ๆ เป็นเพราะวัสุดกับการขัดแต่งตัวเรือน โดย Submariner จะใช้วัสดุเป็น Stainless Steel 904L ที่ถูกขัดเงาด้านข้างตัวเรือน ส่วนที่เหลือถูกขัดแต่งแบบซาติน

ในขณะที่ Fifty Fathoms ใช้วัสดุไทเทเนียมเกรด 23 ที่ถูกขัดแต่งแบบซาตินทั้งเรือน ทำให้ทั้งคู่ดูเป็นนาฬิกาสปอร์ตหรูที่มีรากฐานความเป็น Tool Watch ได้เป็นอย่างดี

พอนำนาฬิกามาขึ้นข้อแล้ว จะเห็นว่า Rolex Submariner มีขนาดที่เล็กกว่า เพราะรุ่นที่เห็นอยู่นี้เป็นรุ่นเก่าที่มีขนาดตัวเรือน 40 มิลลิเมตร (Ref. 116610LN) โดยรุ่นในปัจจุบันได้มีการปรับขนาดขึ้นเป็น 41 มิลลิเมตร

ส่วน Fifty Fathoms จะมีขนาดที่ใหญ่กว่า Submariner เล็กน้อยอยู่ที่ 42 มิลลิเมตร ซึ่งทำให้อ่านค่าเวลาต่าง ๆ ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น และถึงแม้ Fifty Fathoms จะมีความหนากว่าเล็กน้อย แต่ได้มาซึ่งการเก็บพลังงานสำรองที่มากกว่า โดยยาวนานถึง 5 วันเลยทีเดียว ในขณะที่ Rolex รุ่นใหม่จะอยู่ 70 ชั่วโมง หรือประมาณ 3 วัน

นอกจากนี้ฝาหลังของ Rolex จะเป็นแบบทึบ ในขณะที่ Blacncpain จะเป็นฝาหลังแบบโปร่งใสที่ใช้วัสดุแซฟไฟร์ ทำให้สามารถเห็นความสวยงามของกลไกได้อย่างชัดเจน

สำหรับน้ำหนักเวลาสวมใส่บนข้อมือก็แตกต่างกันอย่างชัดเจน เพราะวัสดุไทเทเนียมนั้นเบากว่าสเตนเลสสตีลถึง 40% ดังนั้น Fifty Fathoms จึงเบากว่าและสวมใส่ได้สบายมาก พิเศษกับสายยางแบบ Tropic ซึ่งมีลวดลายที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากสายของ Fifty Fathoms ในปี 1953

โดยส่วนตัวแล้วนั้น เราชอบสายยางเพราะทำให้สวมใส่ได้สบายกว่า เหมาะกับอากาศของประเทศไทย และสีของสายนาฬิกาก็เข้ากันกับหน้าปัดและขอบหน้าปัดได้เป็นอย่างดี ทำให้สามารถจับคู่กับการแต่งตัวได้ง่ายและหลากหลายมากขึ้น ในส่วนของน้ำหนักตอนสวมใส่ก็ถือว่าเบามากเช่นกัน

โดยหากเทียบ Fifty Fathoms ที่อยู่บนข้อมือเล็กขนาด 5.5 นิ้ว ก็ถือว่าพอดี ไม่ใหญ่เทอะทะเกินไป

และนี่เป็นการเปรียบเทียบนาฬิกาบนข้อมือขนาดประมาณ 7 นิ้ว ซึ่งก็ถือว่าขึ้นข้อกำลังสวย เหมาะกับขนาดข้อมือเป็นอย่างดี

โดยนาฬิกาในรุ่น Fifty Fathoms จะมาพร้อมกล่อง Pelican Case สุดพิเศษ ตามแบบฉบับของ Blacpain ซึ่งพอเปิดกล่องมาก็จะเจอ Traveling Case อีกด้วย ถือว่าครบครันและพร้อมสำหรับการนำไปใช้งานในทุกสถานการณ์อย่างแท้จริง

สำหรับราคา Blancpain Fifty Fathoms Automatique วัสดุไทเทเนียมเรือนนี้ที่จับคู่มากับสายยาง Tropic ราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ 612,000 บาทและหากเป็นสายไทเทเนียมจะมีราคาอยู่ที่ 712,000 บาท