Bvlgari Octo

Bvlgari Octo ดีไซน์แบบอิตาลี แม่นยำแบบสวิสและศักดิ์ศรีเหนือกาลเวลา

ในตลาดสินค้าที่เป็น Luxury Brand Bvlgari ถือเป็นกำลังสำคัญที่สร้างมูลค่าให้กับตลาดได้มหาศาล ผ่านสินค้าหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับ น้ำหอม นาฬิกา ไปจนถึงโรงแรมและรีสอร์ตที่ถือเป็นอีกหนึ่งพอร์ตโฟลิโอที่น่าสนใจ แต่ถ้าหากพูดถึงภาพจำของทางแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักในวงกว้าง ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าสิ่งที่สร้างชื่อเสียงได้อย่างล้นหลามคงไม่พ้นเครื่องประดับและนาฬิกาหรูหรา ที่เราต่างรู้จักกันดี แต่เพื่อที่จะเข้าใจและทำความรู้จัก ทั้งในด้านประวัติศาสตร์ ความสำเร็จ และชื่อเสียงของ Bvlgari อย่างแท้จริง

ต้นกำเนิดของ Bvlgari

Bvlgari เป็นแบรนด์ที่ก่อตั้งโดยช่างเงินชาวกรีกที่มีชื่อว่า Sotirios Voulgaris เมื่อนำมาดัดแปลงเป็นภาษาอิตาลีแล้วจะถูกเขียนในชื่อ Sotirio Bulgari ที่ได้เปิดร้านเครื่องประดับเป็นของตัวเองในกรุงโรม ประเทศอิตาลี ตั้งแต่ปี 1884 ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษที่เดินทางมายังกรุงโรม และชื่อเสียงก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว มีการสร้างสรรค์นวัตกรรมและผลงานใหม่ ๆ ออกมา โดยมุ่งเน้นไปที่การผลิตเครื่องประดับจากอัญมณีชั้นสูง จนธุรกิจเติบโตมากขึ้นและกลายเป็นที่รู้จักระดับโลก จนกระทั่งช่วงต้นทศวรรษ 1980 Bvlgari ได้เปิดโรงงานผลิตนาฬิกาที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจหากดีไซน์และกลิ่นอายของนาฬิกาจากแบรนด์นี้ จะให้ความรู้สึกแบบเครื่องเงินอิตาลี แต่ความแม่นยำยอดเยี่ยมสมเป็นมาตรฐานนาฬิกาสวิส

Bvlgari Octo นาฬิกาสปอร์ตสมัยใหม่

Bvlgari Octo ถือเป็นการก้าวกระโดดครั้งสำคัญของแบรนด์สู่อาณาจักรนาฬิกาสปอร์ตสุดหรูในปี 1988 โดยในคอลเลคชันนี้ ทางแบรนด์ตั้งใจผสมผสานกลิ่นอายการออกแบบในสไตล์อิตาลีเข้าไป ผสานกลไกความแม่นยำแบบสวิส จนได้มาเป็นนาฬิกาทรงแปดเหลี่ยมที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากสถาปัตยกรรมของวิหาร Maxentius และ Constantine ถือได้ว่าเป็นรุ่นดาวเด่นที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามทั้งในอดีตและปัจจุบัน เพราะจุดเด่นของมันไม่ได้มีเพียงแค่รูปทรงที่สวยงามเท่านั้น เพราะ Octo ถูกขับเคลื่อนด้วยกลไก Caliber บางเฉียบของ Bvlgari นั่นก็คือ BVL 138 ที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์การก้าวข้ามขีดจำกัดจากแบรนด์ผลิตเครื่องประดับสู่อุตสาหกรรมนาฬิกาอย่างเต็มตัว

ในงาน Geneva Watch Days 2023 ได้ทำการเปิดตัวนาฬิการุ่นใหม่หลายรายการ หนึ่งในนั้นก็คือ Octo Finissimo Automatic Carbongold ตัวเรือนทำจากคาร์บอนพร้อมกลไกบางเฉียบ ทำให้มีน้ำหนักเบาจนแทบไม่รู้สึกเมื่อสวมใส่ เข็มสีทองตัดกับวัสดุหน้าปัดสีดำดูเข้ากันอย่างลงตัว จนเรียกเสียงฮือฮาจากคนรักนาฬิกาภายในงาน มาพร้อมคุณสมบัติกันน้ำลึกได้ถึง 100 เมตร อีกด้วย

แต่ถ้าพูดถึงรุ่นที่มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นอันดับต้น ๆ ในคอลเลคชัน Octo คงหนีไม่พ้นรุ่น Finissimo Ultraที่มีความบางเพียง 1.8 มม. หรือเทียบเท่าเหรียญ 20 cent ถ้าหากจะพูดให้เข้าใจง่าย ๆ คือ เฉียบบางยิ่งกว่าเหรียญ 10 บาทไทย ที่มีความหนาประมาณ 2 มม. นั่นเอง

ส่วนรุ่นที่ได้รับความนิยมมากที่สุด นั่นก็คือ Bvlgari Octo Roma World Timeที่มาพร้อมกับตัวเรือนทรงแปดเหลี่ยมพิมพ์นิยม ออกแบบโดยดีไซเนอร์แห่งยุค Gerald Genta สามารถแสดงได้ทั้งในส่วนเวลาปกติแบบ 12 ชั่วโมง และ GMT ในรูปแบบ 24 ชั่วโมงแบบจานหมุน

จะเห็นได้ว่า Bvlgari Octo มีจุดเด่นที่แตกต่างจากแบรนด์คู่แข่งอื่น ๆ ตรงที่ถึงแม้จะนับได้ว่าเป็นนาฬิกาสวิสขนานแท้ เพราะผลิตจากโรงงานที่สวิสเซอร์แลนด์ แต่จิตวิญญาณและกลิ่นอายยังคงอบอวลไปด้วยความเป็นอิตาลี กรุงโรม ประเทศต้นกำเนิดอย่างเต็มเปี่ยม พร้อมกับนวัตกรรมที่ทำให้เราประหลาดใจอยู่เสมอ ไม่ต้องพูดถึงความสวยงามที่กินขาด เนื่องจากเป็นแบรนด์ที่มีต้นกำเนิดมาจากช่างทำเครื่องเงินและมีชื่อเสียงด้านเครื่องประดับอันดับต้น ๆ ของโลก

หากจะเลือกซื้อนาฬิกาแบรนด์หรูสักเรือน เราแนะนำว่าควรมี Bvlgari Octo เป็นหนึ่งในท็อปลิสต์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ก่อนจะได้ตัดสินใจ Siam Watch Club อยากเชิญชวนทุกท่านเข้ามาดูคอลเลคชัน Bvlgari และนาฬิกาแบรนด์หรูจากทั่วทุกมุมโลกกับเรา ที่เว็บไซต์ Timenaligaร้านขายนาฬิกามือสอง หลากหลายแบรนด์ดัง ที่คร่ำวอดในวงการมาอย่างยาวนาน